แม้จะมีปัญหาให้ทุกข์เท่าไร คุณผ่านได้

ทุกวันนี้ หนังสือประเภทให้แง่คิดชี้หนทาง การฟื้นฟูพลังชีวิต แสวงหาหนทาง ที่แฝงด้วยคติธรรมคำสอนต่างๆ มักเกิดขึ้นมากมาย มีหลากหลายผู้เขียนและสำนักพิมพ์ ให้เลือกซื้อหาจำนวนมาก

หนังสือเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีกลวิธีในการนำเสนอไม่ต่างกันนัก คือเริ่มเรื่องราวด้วยการให้ผู้อ่านเห็นปัญหาของผู้คนในโลกยุคแห่งการแก่งแย่งแข่งขัน หลายคนท้อถอย หมดพลังชีวิตในการต่อสู้ จำต้องฟื้นฟูพลังและหาหนทางใหม่ๆในการยืนหยัดตนเอง ผ่านแรงบันดาลใจด้วยคติธรรมคำสอนต่างๆจนประสบผลสำเร็จ โดยยกตัวอย่างบุคคลสำคัญ ผู้มีชื่อเสียงในสังคมมาเป็นกรณีศึกษา

เมื่อถูกทาบทามเขียนคำนิยมให้กับหนังสือเล่มนี้ แรกเริ่มที่รับต้นฉบับก็คิดอย่างคร่าวๆว่า เจอหนังสือแนวนี้อีกแล้ว และน่าจะมีสาระที่ไม่ต่างจากที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็ได้แต่มองผ่านๆและวางไว้

แต่เมื่อหวนคิดถึงอดีตครั้งที่สอนหนังสือผู้เขียน พอจำได้ว่าเด็กคนนี้มีพลังสร้างสรรค์ที่สูงส่งควบคู่กับความเฉลียวฉลาดในทางการเรียน พลันก็หันไปหยิบหนังสือมาเปิดใหม่ ลองพลิกดูในบางบทค่อยๆอ่านอย่างบรรจง จากบางบทก็เริ่มกลายเป็นทุกบท จากทุกบทกลายเป็นทุกตอน ทุกหน้าและทุกบรรทัด เผลอแปลบ อ่านจบอย่างไม่รู้ตัว

ไม่ธรรมดาเลยสำหรับหนังสือเล่มนี้ แม้จะมีเป้าหมายคล้ายๆกับหนังสือส่วนใหญ่ที่วางขาย

ไม่ธรรมดาที่ว่าก็เพราะ การนำเสนอเนื้อหาที่ผูกโยงเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนน่าติดตาม เริ่มแต่ปลดแอกความรักไปจนถึงปลดแอกชีวิต มุ่งเน้นเรื่องราวผ่านประสบการณ์จริงในชีวิตของผู้เขียน ที่แวดล้อมด้วยลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงานและครอบครัว ด้วยการเล่าผ่านถ้อยคำง่ายๆแต่ลึกซึ้ง ถักทอร้อยเรียงกับคติธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา และแง่คิดจากปรัชญาเมธีได้อย่างกลมกลืน

ไม่จำเป็นที่ต้องมีประดิษฐ์กรรมทางภาษา หากสื่อจากวจีเรียบง่ายตามประสาภาษาของชาวบ้าน จนเห็นภาพชีวิตชัดแจ้งและเข้าใจในจุดหมายของเธออย่างลึกซึ้ง

ไม่จำเป็นต้องยกย่องหรือเยินยอเธอมากนัก หนังสืออยู่ในมือท่านแล้ว โปรดพินิจ พิเคราะห์ เอาเองครับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร ศักดิ์สูง
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ