มีเพียงชาตินี้ ไม่มีชาติหน้า

สุภัททะ ! ในธรรมวินัยนี้แล ที่มีอริยมรรคมีองค์แปดสมณะที่หนึ่ง(พระโสดาบัน) ก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ แม้สมณะที่สอง(พระสกทาคามี) ก็หาได้

แม้สมณะที่สาม (พระอนาคามี) ก็หาได้ แม้สมณะที่สี่ (พระอรหันต์) ก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ สุภัททะ ! ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงอยู่โดยชอบไซร้โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย แล.
( บาลี พระพุทธภาษิต มหาปรินิพพานสูตร มหา.ที. ๑๐/๑๗๕/๑๓๘)

พุทธวัจนที่ตรัสแก่สุภัททปริพพาชก ก่อนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในบทข้างต้นนี้ ย่อมเป็นการยืนยันถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ อันหมายถึงมรรควิธี คือศีล สมาธิ และปัญญา ที่ผู้ปฏิบัติตามย่อมมีโอกาสบรรลุมรรคผล นิพพานถึงความพ้นทุกข์ได้ โดยไม่จำกัดกาล สถานที่ เพศ ฐานะหรือแม้กระทั่งวัย อันจะพบตัวอย่างได้จากครั้งพุทธกาลที่ผู้บรรลุธรรมมีทั้งบุรุษและสตรี มีทุกชนชั้นวรรณะ และมีทั้งผู้สูงวัยกระทั่งพระอรหันต์ที่อายุน้อยที่สุดเพียง ๗ ขวบ

หนังสือ มีเพียงชาตินี้ ไม่มีชาติหน้า เป็นหนังสือที่รวบรวมเอาประวัติ ปฏิปทา คติธรรม ปาฏิหาริย์ธรรมและการเผยแผ่พระพุทธศาสนาขององค์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งองค์ท่านมีคณะศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมากด้วยข้อวัตรปฏิบัติแห่งการเป็นพระนักพัฒนาและความเมตตาเสียสละที่มีต่อสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนปรากฎการณ์อันน่าอัศจรรย์ที่เหล่าศิษยานุศิษย์ได้สัมผัสในบารมีขององค์ท่าน โดยสามารถติดตามอ่านได้ในหนังสือเล่มนี้ ด้วยสติควบคู่กับปัญญา แล้วชาติหน้าอาจไม่มีสำหรับคุณ (อีกต่อไป)